ก่อนการประชุมธนาคารแห่งประเทศอังกฤษในเดือนกุมภาพันธ์ ปอนด์กำลังแสดงความแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นเป็นวันทีสามติดต่อกัน ก่อนหน้านี้ คู่เงิน GBP/USD มีการซื้อขายอยู่ในช่วง 1.22 แต่ตอนนี้กำลังเข้าใกล้ระดับแนวต้านที่ 1.2550 ซึ่งระบุโดยเส้นบนของ Bollinger Bands ในกราฟรายวัน (D1)
ควรเน้นว่าการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางขึ้นในครั้งนี้เกิดจากความอ่อนแอของดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก ดัชนีดอลลาร์สหรัฐได้ลดลงเป็นวันทีสามติดต่อกันและกำลังเข้าใกล้ระดับ 106 อย่างไรก็ตาม ปอนด์ยังไม่ปรากฏว่าแข็งแรงมากในคู่เงินข้าม เช่น คู่เงิน GBP/JPY กำลังเผชิญกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในวันพุธนี้ นี่มันบ่งบอกอะไรหรือไม่? สิ่งนี้บ่งบอกเป็นหลักว่าการเพิ่มขึ้นในปัจจุบันของคู่เงินปอนด์-ดอลลาร์ควรจะแสดงความระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงเหตุผลพื้นฐานที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนแอ ซึ่งจะมีการอภิปรายเพิ่มเติมในภายหลัง
ควรสังเกตว่า หลังจากการประชุมของ BoE ในเดือนกุมภาพันธ์ ค่าเงินปอนด์อาจต้องเผชิญกับความกดดันอย่างมาก ซึ่งอาจขัดขวางผู้ซื้อ GBP/USD จากการขับเคลื่อนคู่เงินให้สูงขึ้นอีก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สถานการณ์ปัจจุบันของคู่เงินนี้ยังไม่แน่นอน และโอกาสที่จะขึ้นอาจเป็นการเข้าใจผิด
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า BoE จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในวันพฤหัสบดี ทำให้อัตราดอกเบี้ยเหลือ 4.50% ซึ่งการตัดสินใจนี้ที่คาดการณ์ไว้อย่างกว้างขวางได้ถูกปัจจัยเข้ามาในตลาดแล้วตั้งแต่กลางเดือนมกราคม หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อทันสมัยของสหราชอาณาจักร
เพื่อสรุปอย่างสั้น ๆ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) โดยรวมในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปี ในสองเดือนติดต่อกัน ตัวเลขแสดงแนวโน้มขาขึ้น (ถึง 2.6% ในเดือนพฤศจิกายน) แต่ในเดือนธันวาคม กลับชะลอลงอย่างไม่คาดคิด ขัดกับการพยากรณ์ (ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีจะอยู่ในระดับเดียวกับเดือนพฤศจิกายน) ดัชนี CPI หลักยังเข้าสู่ "โซนอันตราย" แทนที่จะชะลอลงตามที่คาดไว้ถึง 3.4% ต่อปี กลับหดตัวเหลือ 3.2% หลังจากเติบโตสองเดือน (ตุลาคม พฤศจิกายน) ตัวบ่งชี้ลดลงยิ่งกว่าที่คาดไว้ ดัชนีราคาขายปลีก (RPI) ซึ่งผู้ว่าจ้างใช้ระหว่างการสนทนาเรื่องเงินเดือน ก็ชะลอลงเต็กน้อย ในระดับปี RPI ลดลงเหลือ 3.5% เทียบกับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 3.8% ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อ CPI ในภาคบริการลดลงอย่างมากในเดือนธันวาคมเหลือ 4.4% ต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022
หลังจากการเปิดเผยล่าสุด คู่เงิน GBP/USD เริ่มสูญเสียพื้นฐาน สะท้อนถึงอัตราดอกเบี้ยที่จะถูกลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ราคาได้ลดลงเกือบ 500 จุดถึงระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปีที่ 1.2099 อย่างไรก็ตาม คู่เงินกลับทิศทางและเคลื่อนขึ้น เนื่องจากการอ่อนแอของดอลลาร์สหรัฐโดยทั่วไป
ทำไม greenback ถึงอ่อนลง? ปัจจัยหลักคือคาดการณ์ของดีลที่เป็นไปได้ระหว่าง Trump และ Xi Jinping ทรัมป์กำหนดภาษี 10% ในสินค้าจีนทุกชิ้นซึ่งกระตุ้นให้จีนตอบโต้ด้วยภาษีในผลิตภัณฑ์อเมริกันหลายรายการ นอกจากนี้ ปักกิ่งได้จำกัดการส่งออกโลหะจำนวนหนึ่งที่ใช้ในพลังงานของสหรัฐฯ การป้องกันและอุตสาหกรรมอื่นๆ
ตลาดฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจาก "การแลกเปลี่ยนของการโจมตี" นี้ เช่น GBP/USD ลดลงอย่างรุนแรงถึง 1.2248 ในวันจันทร์ แต่ฟื้นตัวขึ้น 300 จุดภายในสามวัน โดยระดับสูงสุดวันพุธถึง 1.2550 ผู้ซื้อขายมีความหวังว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะสิ้นสุดลงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในการตั้งภาษีกับแคนาดาและเม็กซิโก
ความคาดหวังเหล่านี้มีเหตุผลหรือไม่? ในแง่หนึ่ง การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นอย่างชัดเจน ในอีกแง่หนึ่ง ตัวแทนจากทำเนียบขาว รวมถึง Trump ประกาศสองครั้งว่าจะมีการสนทนากับ Xi Jinping อย่างไรก็ตามการประกาศเหล่านี้ไม่เป็นความจริงแสดงว่านักเจรจายังไม่บรรลุข้อพอใจ หากสถานการณ์ยังคงสร้างกระแสความเสี่ยงในตลาดเพิ่มขึ้น ความต้องการซื้อดอลลาร์จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานะที่เปราะบางของเงินปอนด์จึงไม่น่าจะสามารถเคลื่อนสูงได้ด้วยตัวเอง
หลังจากผลลัพธ์ของการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ของ BoE เงินปอนด์อาจเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคู่ GBP/USD หากธนาคารกลางประกาศขั้นตอนถัดไปในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
แม้แต่การลงคะแนนเสียงที่แตกกันในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) อาจกระตุ้นความผันผวนได้ คาดการณ์ว่าจะมีผล 0-8-1 - ไม่มีการลงคะแนนสำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ย แปดสำหรับการลดดอกเบี้ย และหนึ่ง (Catherine Mann) เพื่อต้องการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75% หากแม้แต่ Mann นักเหยี่ยวที่เป็นเสียงดังที่สุดสนับสนุนการลดดอกเบี้ย เงินปอนด์จะต้องเผชิญกับความกดดันอย่างมาก
ธนาคารกลางอาจให้ความสนใจอย่างยิ่งต่อข้อมูลเดือนมกราคมเกี่ยวกับดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจ (PMI) ในสหราชอาณาจักร ที่ได้รับการปรับลดลงทั้งสำหรับภาคบริการและกิจกรรมโดยรวม แม้ว่าตัวบ่งชี้ยังคงอยู่ในโซนขยายตัว แต่พวกมันก็ใกล้ที่จะผ่านเข้าโซนหดตัวด้วยอัตราการอ่าน 50.8 และ 50.6
เพิ่มไปถึงนี้คือการเติบโตที่ช้าของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร ตามข้อมูลล่าสุด GDP ของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนพฤศจิกายน (เทียบกับการคาดการณ์ของ 0.2%)
BoE มีแนวโน้มที่จะยึดถือนโยบายแบบเชิงพิธีที่การประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ เน้นที่เงินเฟ้าที่ชะลอตัว เศรษฐกิจที่อ่อนแอ และกิจกรรมทางธุรกิจที่ลดลง ในบริบทนี้ ศักยภาพในการเติบโตต่อไปของ GBP/USD จะขึ้นอยู่มากกับความสนใจของตลาดที่มีต่สินทรัพย์เสี่ยงเป็นใหญ่ โดยเฉพาะกับการพัฒนาของ Trump และ Xi Jinping
เนื่องจากความไม่แน่นอนนี้ การตัดสินใจใด ๆ ในการซื้อขายในขณะนี้ดูเป็นความเสี่ยง ทั้งการขายและโดยเฉพาะการซื้อ GBP/USD ดูไม่เหมาะสม แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นล่าสุดก็ตาม
