วิเคราะห์การซื้อขายวันพฤหัสบดี

แผนภูมิ 1 ชั่วโมง ของ GBP/USD

คู่สกุลเงิน GBP/USD ลดลงในวันพฤหัสบดี แม้ว่าจะมีเหตุผลน้อยสำหรับการเคลื่อนไหวนี้ ค่าภาษีนำเข้าของทรัมป์ต่อสหภาพยุโรปไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสหราชอาณาจักรที่ออกจากกลุ่มดังกล่าวเมื่อหลายปีก่อน อย่างไรก็ตาม รายงานเกี่ยวกับ GDP ของสหรัฐฯ และคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสนับสนุนเงินดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนมกราคม ซึ่งเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2% ส่วนการประเมินครั้งที่สามของการเติบโตของ GDP ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากการประเมินครั้งก่อนๆ ซึ่งบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งสำหรับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

ในช่วงต่อมาของวัน ทรัมป์ประกาศว่ากำลังมีการวางแผนเก็บภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าในสหราชอาณาจักร ส่งผลให้ปอนด์อยู่ในสถานการณ์เดียวกับยูโร นอกจากนี้ ปอนด์มีการซื้อมากเกินไปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการปรับฐานอย่างมีนัยสำคัญและบ่อยครั้งโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน ดังนั้น คาดว่าปอนด์จะลดลงไปในทิศทางเดียวกับยูโร

กราฟ 5 นาที ของ GBP/USD

ในกราฟเวลา 5 นาที มีสัญญาณการซื้อขายหลายอย่างที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี เมื่อตลาดสหรัฐฯ เปิดทำการ ค่าเงินปอนด์ได้ปรับตัวขึ้นสามครั้งจากช่วง 1.2680-1.2685 ก่อนที่จะตกลงมาที่ 1.2613 และเคลื่อนที่ต่ำกว่าระดับนี้ นี่เป็นโอกาสในการทำกำไรประมาณ 50 pips สำหรับผู้ค้าหน้าใหม่ที่เปิดตลาดขายชอร์ต

กลยุทธ์การซื้อขายสำหรับวันศุกร์:

ในกราฟรายชั่วโมง GBP/USD อาจเริ่มเคลื่อนไหวแนวโน้มขาลงในระยะสั้น แต่การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้เป็นการปรับฐานในกราฟรายวัน เรายังคาดว่าปอนด์จะลดลงสู่เป้าหมายที่ 1.1800 ในระยะกลาง เนื่องจากดูสมเหตุสมผล ดังนั้นเรากำลังรอการสิ้นสุดของการปรับตัวขึ้นในกราฟรายวัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นแล้วในสัปดาห์นี้

ในวันศุกร์ GBP/USD อาจเริ่มเคลื่อนไหวขาลงอีกครั้ง เนื่องจากปอนด์ได้ปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จุดแนวโน้มที่ปรับตัวขึ้นนั้นยังไม่ถูกทำลายลง และมีแนวโน้มที่จะลดลงไปที่เส้นแนวโน้มนี้

สำหรับกราฟเวลา 5 นาที ระดับการซื้อขายที่เกี่ยวข้องคือ 1.2164-1.2170, 1.2241-1.2270, 1.2301, 1.2372-1.2387, 1.2445, 1.2502-1.2508, 1.2547, 1.2613, 1.2680-1.2685, 1.2723 และ 1.2791-1.2798 ในวันศุกร์ ไม่มีเหตุการณ์หรือรายงานสำคัญใด ๆ ที่จะประกาศในสหราชอาณาจักร ในสหรัฐฯ จะมีการเผยแพร่ดัชนี PCE และรายงานรายได้และการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ไม่ค่อยสำคัญมากนัก และการตอบสนองของตลาดอาจไม่มากนัก

กฎการซื้อขายหลัก:

1. ความแข็งแรงของสัญญาณ: ยิ่งเกิดสัญญาณเร็วยิ่งแรงเท่าไหร่ (เช่น การเด้งหรือการทะลุ) ยิ่งสัญญาณแข็งแรงเท่านั้น
2. สัญญาณเท็จ: หากมีการซื้อขายสองครั้งหรือมากกว่านั้นใกล้ระดับที่ทำให้เกิดสัญญาณเท็จ สัญญาณถัดไปจากระดับนั้นควรถูกมองข้าม
3. ตลาดคง: ในสภาวะตลาดคง อาจเกิดสัญญาณเท็จมากมายหรือไม่มีเลย ควรหยุดการซื้อขายเมื่อเริ่มมีสัญญาณคงของตลาด
4. ชั่วโมงการซื้อขาย: เปิดการซื้อขายระหว่างช่วงเริ่มต้นของเซสชันยุโรปและถึงกลางเซสชันสหรัฐฯ แล้วปิดการซื้อขายทั้งหมดด้วยตนเอง
5. สัญญาณ MACD: ในกราฟรายชั่วโมง ซื้อขายสัญญาณ MACD เฉพาะในช่วงที่มีความผันผวนดีและแนวโน้มชัดเจนที่ยืนยันด้วยเส้นแนวโน้มหรือช่องทางแนวโน้ม
6. ระดับใกล้: หากสองระดับอยู่ใกล้กัน (ห่างกัน 5–20 pips) ให้ปฏิบัติต่อพวกเขาเสมือนเป็นโซนสนับสนุนหรือต้านทาน
7. Stop Loss: ตั้งค่า Stop Loss เพื่อให้เสมอภาคเมื่อราคาย้ายไป 20 pips ในทิศทางที่ต้องการ

องค์ประกอบสำคัญในแผนภูมิ:

ระดับสนับสนุนและต้านทาน: เป็นเป้าหมายสำหรับการเปิดหรือปิด posีiton และยังสามารถใช้เป็นจุดวาง Take Profit ได้

เส้นสีแดง: ชาเเนลหากเส้นแนวโน้มที่ระบุว่าเป็นแนวโน้มปัจจุบันและทิศทางที่ควรทำการซื้อขาย

ตัวบ่งชี้ MACD (14,22,3): ฮิสโตแกรมและเส้นสัญญาณที่ใช้เป็นแหล่งข้อมูลเสริมของสัญญาณการซื้อขาย

เหตุการณ์สำคัญและรายงาน: ที่พบในปฎิทินเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมาก ควรระมัดระวังหรือออกจากตลาดในช่วงการปล่อยข้อมูลเพื่อหลีกเลี่ยงการพลิกกลับฉับพลัน

ผู้เริ่มต้นในการซื้อขายฟอเร็กซ์ควรจำไว้ว่าการซื้อขายทุกครั้งอาจไม่ให้กำไร การพัฒนากลยุทธ์ที่ชัดเจนและการปฏิบัติการจัดการเงินที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการซื้อขายในระยะยาว